ภูเขาเทียนเหมินซานเป็นอีกหนึ่งในภูเขาที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดในโลก เป็นอีกเช็คพอย์ที่ต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะเป็นการนั่งระกระเช้าที่มีระยะทางยาวสุดในโลก เดินผ่านช่องแคบ ไปทดสอบความกล้าบนทางเดินกระจก และเดินขึ้นบันได 999 ขั้นสู่ประตูสวรรค์ ภูเขาเทียนเหมินซานตั้งอยู่ในจางเจียเจี้ยซึ่งเป็นเมืองในมณฑลหูหนานของประเทศจีน คนส่วนใหญ่เดินทางมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ที่ซึ่งมีภูมิทัศน์เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์เรื่อง “Avatar” ยังมีอะไรหลายอย่างรอให้เราสำรวจอีกมาถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย
สถานที่น่าสนในของเทียนเหมินซาน
1.รถกระเช้า Tianmen Shan เคเบิลคาร์เทียนเหมินชานให้บริการผู้เข้าชมจากใจกลางเมืองจางเจียเจี้ยไปยังสวนลอยฟ้าตั้งอยู่บนยอดเขาเทียนเหมิน เป็นระยะทางยาวกว่า 7,455 เมตร มักจะถูกนำไปทำข่าวพาดหัวว่าเป็น “กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก” ที่ต้องมาให้ได้ซักครั้งในประเทศจีน มันใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 28 นาทีเพื่อที่จะขึ้นไปจุดสูงสุดของภูเขา ภูเขาเทียนเหมินสูง 1279 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีทางลาดชันสูงสุด 38 องศา ใช่แล้วถึงมันจะเป็นเพียงแค่กระเช้าลอยฟ้าแต่วิวที่คุณจะเห็นด้านบนเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆเลย
2.ทางเดินลอยฟ้า Glass Skywalk อยากเดินเล่นงั้นเหรอ ทำไมไม่มาที่ทางเดินกระจกที่อยู๋รอบเขาเทียนเหมินซานล่ะ ในขณะที่ส่วนใหญ่ของพื้นทำจากคอนกรีต ส่วนหนึ่งถูกทำขึ้นมาจากแก้ว หนา 2.5 นิ้ว เมื่อเดินไปตามหน้าผาด้านหนึ่งทางเดินสิ้นสุดที่ 4,690 ฟุต (1430 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล เส้นทางที่เป็นกระจกมีความยาวเพียง 200 ฟุต แต่เชื่อฉันเถอะมันไม่สั้นหรอกเวลาที่คุณเดินอยู่ตรงนั้น
3.วัดเทียนเหมิน วัดเทียน Men Shan เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในฝั่งตะวันตกของมณฑลหูหนาน เป็นวัดแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง และเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาจนกระทั่งได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่ ด้วยโครงสร้างใหม่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ใช้องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของราชวงศ์ชิงที่มีความวิจิตรการตา
4.ประตูสู่สวรรค์ ถ้ำเทียนเหมิน ถ้ำเทียนเหมินเป็นหลุมธรรมชาติที่ตัดผ่านด้านหนึ่งของภูเขาเทียนเหมิน อยู่บนทระดับความสูง 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเลทำให้มันเป็นซุ้มประตูธรรมชาติที่สูงที่สุดในโลก ได้รับฉายาว่าเป็น “ประตูสู่สวรรค์” นี้มีความสูง 131.5 เมตรกว้าง 57 เมตรและลึก 60 เมตร ในสมัยก่อนมันไม่ได้มีรูปร่างเป็นแบบนี้ ถูกรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูเขาซ่งเหลียง” จนถึงปีที่ 263 เมื่อหน้าผาเกิดถล่มลงสร้างช่องกว้างราวกับประตูสู่สวงสวรรค์