เที่ยวชมดินแดนแห่งศาสนาพุทธบนเมืองที่สูงที่สุดในโลก

การเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปเที่ยวเขตปกครองตนเองของทิเบต ต้องมีความพร้อมเป็นอย่างมากในเรื่องของร่างกายและจิตใจ เพราะถือเป็นจุดสูงสุดของโลกและยังมีอากาศออกซิเจนที่น้อยกว่าพื้นที่รอบเป็นอย่างมาก เราจึงต้องเตรียมความพร้อมเป็นระยะเวลา 1 เดือน วิ่งหรือออกกำลังกายอื่นๆ เพื่อให้ปอดของเราแข็งแรงมากขึ้นพร้อมที่จะไปเผชิญหน้ากับที่สูงได้อย่างเต็มที่ สำหรับคนที่ต้องการจะไปทิเบตต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน โรคที่เป็นกลุ่มเสียงก็คือ โรคหัวใจ บายพัดหัวใจและความดันโลหิต การเดินทางไปทิเบตของเราจะต้องนั่งเครื่องบินไปลงที่จีนก่อนนะครับ เพราะที่ไทยไม่มีบินตรงไปทิเบต จะไปสถานีไหนก็ได้ดังนี้ คุนหมิง เฉิงตู กวางเจา ปักกิ่ง ฉงชิ่งและซีอาน เพื่อที่จะนั่งเครื่องบินต่อไปยังสนามบินนครลาซาของทิเบตได้ เส้นทางที่ผมอยากแนะก็คือ คุนหมิง เพราะเป็นมณฑลที่ใกล้กับนครลาซามากที่สุดแล้ว คุณสามารถเลือกนั่งรถไฟได้ถ้าคุณกลัวความสูง แต่ต้องนั่งเครื่องบินไปลงที่ซีหนิง มณฑลชิงไห่แล้วนั่งรถไฟต่อเข้าทิเบต แต่ระหว่างทางก็ต้องขึ้นลงเขาไปมา ซึ่งมีความสูง 2000 – 5000 เมตรเลยทีเดียวและทำให้เราเสียเวลาอีกด้วย แต่สำหรับคนที่ต้องการชิมทิวทัศน์ระหว่างทางก็น่าจะเหมาะสมนะครับ เมื่อไปถึงทิเบต ผมก็เข้าโรงแรมเพื่อเก็บของแล้วเดินไปทำบุญไหว้พระกันเลยครับ ที่ทิเบตนับถือศาสนาพุทธกันเกือบทั้งหมด ผมได้ไปที่วัดเซรา ซึ่งมีพระเหมือนบ้านเราแต่ใส่ชุดเป็นสีแดงเข้ม คนทิเบตไม่ได้กราบพระเหมือนเรานะครับ ผมจึงเลือกเดินไปเฉยๆ ครับ จากนั้นได้แวะไปดูพระทำกิจกรรมทางวัด ปรุงยา แล้วก็ไปที่อื่นต่อครับ ที่ที่ผมจะไปต่อก็คือพระราชวังโปตาลา เป็นราชวังเก่าแก่ของทิเบตครับและได้แวะชมดอกไม้งามที่ตำหนักนอร์บุหลิน มรดกของโลกแห่งทิเบต